เรื่องที่ต้องระวัง หากคุณกำลังวางแผนทำเอนโดไทน์

การศัลยกรรมยกกระชับด้วยเอนโดไทน์ (Endotine) กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนที่ต้องการปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรมนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพึงพอใจ
เรื่องที่ต้องระวัง ก่อนตัดสินใจทำเอนโดไทน์

1.เลือกคลินิกและศัลยแพทย์ที่เชื่อถือได้
-ควรศึกษาประวัติและความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการรักษา
-เลือกสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

2.เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนทำ
-หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
-หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอี อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ

3.อาการบวมและฟื้นตัวหลังทำ
-หลังทำอาจมีอาการบวม ฟกช้ำ หรือตึงบริเวณที่ทำ ซึ่งเป็นปกติและจะหายไปใน 1-2 สัปดาห์
-ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การประคบเย็นในช่วงแรกเพื่อลดอาการบวม

4.ระยะเวลาการยกกระชับและผลลัพธ์
-ผลของการทำเอนโดไทน์มักเห็นผลชัดเจนภายใน 2-3 เดือน และอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพฤติกรรมการดูแลตัวเอง

5.ผลข้างเคียงและความเสี่ยง
-มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อหรือการอักเสบ หากดูแลไม่ถูกวิธี
-อาจเกิดอาการผิวไม่เรียบเนียนหรือตึงเกินไปในบางจุด หากไม่ได้รับการทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

6.การดูแลหลังทำ
-หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือกดทับใบหน้าในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
-งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เช่น ออกกำลังกายหนักๆ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน

แม้การทำเอนโดไทน์จะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว แต่ก็ต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ทั้งการเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนเท่านี้คุณก็สามารถมีใบหน้าที่เต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมั่นใจ หากคุณสนใจดึงหน้า Endotine เป็นการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยที่เห็นผลในทันที ให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานโดยไม่ต้องทำหัตถการบ่อย ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์และการดูแลตัวเองร่วมด้วย